การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ
1. แหล่งที่มาของข้อมูลและความจริงแท้ของข้อมูล การตรวจสอบหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานของ ระบบการจัดการข้อมูลและเมทาดาตาจากแหล่งที่มาของข้อมูลที่ตรวจสอบจากการนำฝากข้อมูล กรณีมีการเปลี่ยนแปลง/ แก้ไขข้อมูลจะต้องมีการบันทึกเอกสารไว้ทุกครั้ง การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุดิจิทัลกับเมทาดาตาที่นำฝาก และ การบริการการเข้าถึงข้อมูลบนคลังดิจิทัลจะต้องแสดงหลักฐานการตรวจสอบข้อมูลและเมทาดาตาที่มีการนำเข้า หากมีการ นำเข้าข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลง/แก้ไขจะต้องระบุเวอร์ชัน (Version) ของข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ ก่อนจะมีการ ดำเนินการจัดเก็บและสงวนรักษาข้อมูล จนกระทั่งเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูล
2. ลักษณะของงานวิจัย/โครงการ ชุดข้อมูลการเคลื่อนไหวที่ได้จากการจัดเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวด้วยชุด อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับอุตสาหกรรม และมีกระบวนการวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือ ประกอบด้วย 1) ข้อมูลนักแสดง เป็นข้อมูลส่วนบุคคลจึงจำเป็นต้องมีการขออนุญาตการเปิดเผยข้อมูล โดยจะมี กล่องข้อความเพื่อแสดงความยินยอมการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ 2) การคัดเลือกนักแสดงสำหรับการจัดเก็บข้อมูลการ เคลื่อนไหว เพื่อสร้างคุณค่าให้กับชุดข้อมูลการเคลื่อนไหว เนื่องจากนาฏศิลป์เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนด้านวัฒนธรรม สำหรับการคัดเลือกนักแสดงที่มีความอาวุโสในวงการนาฏศิลป์ ตัวอย่างกรณีศึกษาจะต้องได้รับการยอมรับในวงการ เช่น มี ลำดับชั้นครู เป็นต้น ผู้วิจัยสามารถเลือกสร้างคุณค่าและมาตรฐานในการคัดเลือกนักแสดงเพื่อให้ได้ข้อมูลนำเข้าที่มีความ เที่ยงตรงของข้อมูลด้วยวิธีการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย โดยมีมุมมองในด้านการสงวนรักษาข้อมูล การศึกษา และการเผยแพร่ ดังนั้น การจัดเก็บข้อมูลงานวิจัยควรใช้ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถต่อยอด องค์ความรู้และเป็นการยกระดับข้อมูลการเคลื่อนไหวสำหรับคลังจดหมายเหตุดิจิทัลแบบมีชีวิต
3. การเลือกมาตรฐานเมทาดาตา การประเมินความต้องการรูปแบบสำหรับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยที่มี บริบทแตกต่างกันแต่มีหน้าที่เหมือนกันสิ่งหนึ่งคือการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน เช่น สำนักวิทยบริการ พิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัย และหอจดหมายเหตุมหาวิทยาลัย เป็นต้น การเลือกมาตรฐานเมทาดาตาที่มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับ บริบทของหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบการจัดเก็บข้อมูล การลงรายการข้อมูล และการสงวนรักษาข้อมูล จึงมีความ จำเป็นต้องมีการศึกษารูปแบบตามความต้องการของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย จากนั้นจึงนำผลมาวิเคราะห์และเลือกแนวทางการใช้ มาตรฐานเมทาดาตาที่มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของหน่วยงาน เช่น การเลือกมาตรฐานเมทาดาตาในรูปแบบ ของหน่วยงาน เช่น มาตรฐานห้องสมุด มาตรฐานพิพิธภัณฑ์ หรือมาตรฐานหอจดหมายเหตุ หรือจะเลือกมาตรฐานเมทาดาตา เป็นรายประเภทแต่ควรเลือกใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด เช่น เมทาดาตาเชิงการบริหารจัดการ เมทาดาตาเชิงพรรณนา หรือเมทาดาตาเชิงเทคนิค เป็นต้น
4. การนำฝากข้อมูลและการประเมินคุณภาพข้อมูล การประเมินข้อมูลจากผู้นำฝากมีความสอดคล้องกับเกณฑ์ คุณภาพในการคัดเลือกข้อมูลที่จะนำไปใช้ในการจัดการข้อมูล การสงวนรักษา และการเผยแพร่ไปยังผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย 1) มีการลงรายการข้อมูลในเมทาดาตาเพียงพอต่อการจัดเก็บข้อมูลในระยะยาว 2) เกณฑ์ประเมินคุณภาพข้อมูลต้องมีการ วางแผน กำหนดนโยบาย และกระบวนการที่ชัดเจน 3) การประเมินคุณภาพของข้อมูลที่มีความสอดคล้องกับพันธกิจและ ขอบเขต นโยบาย การจัดการสิทธิ์และกฎหมายลิขสิทธิ์ 4) พิจารณาความสัมพันธ์ของข้อมูล ไฟล์ข้อมูล เมทาดาตา และวัตถุ ดิจิทัล 5) คลังดิจิทัลสามารถประเมินและคัดกรองข้อมูลตามรูปแบบรายการมาตรฐานที่ระบบกำหนดแบบอัตโนมัติ โดย พิจารณาจากการลงรายการข้อมูล ไฟล์ข้อมูล เมทาดาตา และวัตถุดิจิทัลที่เพียงพอ 6) คลังดิจิทัลสามารถประเมินและแจ้ง เตือนไปยังผู้นำฝากข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่เพียงพอตามรูปแบบรายการที่ระบบกำหนด 7) มีบุคลากรผู้ดูแลระบบในการ รับผิดชอบประเมินคุณภาพของข้อมูลจากผู้นำฝากเพื่อนำไปพิจารณาสงวนรักษา และการเผยแพร่ไปยังผู้ใช้บริการ
5. การกำหนดกระบวนการและแผนการสงวนรักษาข้อมูล กำหนดให้มีกระบวนการ ประกอบด้วย กระบวนการ นำเข้าข้อมูล กระบวนการจัดการข้อมูล กระบวนการสงวนรักษาข้อมูล และกระบวนการเผยแพร่ข้อมูล อีกทั้งยังกำหนด แผนสำหรับการสงวนรักษาข้อมูล กรณีจำเป็นต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลในอนาคต รายการข้อมูล ไฟล์ข้อมูล เมทาดาตา และ วัตถุดิจิทัล ตามระยะเวลาในการสงวนรักษาข้อมูลที่กำหนดหรือตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลง มาตรฐานเพื่อประโยชน์ในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศและการสงวนรักษาข้อมูล
6. การจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน กำหนดให้มีแนวปฏิบัติในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นระบบและกลไก ประกอบด้วย 1) วัตถุประสงค์ 2) ขอบเขต 3) คําจํากัดความ 4) หน้าที่ความรับผิดชอบ 5) ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และ 6) แผนผังกระบวนการ ปฏิบัติงาน
7. การค้นหาและการอ้างถึงข้อมูล กำหนดให้มีองค์ประกอบสำหรับการค้นหาและการอ้างถึงข้อมูล ประกอบด้วย 1) ระบบการสืบค้นที่เป็นมาตรฐาน กรณีคลังจดหมายเหตุดิจิทัลแบบมีชีวิตจะเป็นการจัดเก็บข้อมูลด้านสื่อและเมทาดาตา ควรมีระบบสืบค้นโดยเมทาดาตาและสื่อร่วมด้วย หรือระบบสืบค้นเชิงความหมายโดยวิธีออนโทโลยี 2) กำหนดรหัสเพื่อเชื่อมโยงการเข้าถึงตัวบ่งชี้ข้อมูลถาวร เช่น ชื่อคน ชื่อหน่วยงาน และชื่อผลงาน โดยการกำหนดให้มีรูปแบบการลงรายการ มาตรฐานเมทาดาตา และ 3) มีฐานข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลอื่นๆ
8. การนำข้อมูลมาใช้อีก ประกอบด้วย
8.1 ข้อมูลและเมทาดาตาสามารถนำมาใช้ได้อีก การตรวจสอบรูปแบบและการลงรายการเมทาดาตาที่ ผู้ใช้บริการต้องการนำกลับมาใช้ได้อีกเมื่อเวลาผ่านไป ประกอบด้วย 1) รูปแบบของไฟล์ข้อมูล รูปแบบของเมทาดาตา ออน โทโลยี ที่ใช้สนับสนุนการนำมาใช้ได้อีกสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนผู้ใช้บริการ 2) การวัดความต้องการและความ เข้าใจเมทาดาตาสำหรับการเข้าถึงและนำมาใช้ประโยชน์สำหรับชุมชนผู้ใช้บริการ และ 3) มีการกำหนดรูปแบบมาตรฐานเมทา ดาตาที่ใช้อธิบายข้อมูล
8.2 แนวทางการนำไฟล์ข้อมูลการเคลื่อนไหวไปใช้อีก คลังจดหมายเหตุดิจิทัลแบบมีชีวิตมีการออกแบบมา เพื่อให้เกิดการนำไฟล์ข้อมูลการเคลื่อนไหวมาใช้อีก เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของการใช้งานระบบคลังข้อมูลซึ่งจะเป็น ประโยชน์ทั้งผู้ที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูล และผู้ที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้อีก โดยไฟล์ข้อมูลเหล่านี้จะมีการฝังข้อมูลเมทาดาตา ให้กับไฟล์ข้อมูลการเคลื่อนไหวด้วย รวมถึงการวางเงื่อนไขและรูปแบบของการขออนุญาตนำไปใช้ประโยชน์หรือการ ประยุกต์ใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการจัดการสิทธิ์และกฏหมายลิขสิทธิ์ มีการกำหนดแนวทางกา รเข้าถึงข้อมูลสำหรับ ผู้ใช้บริการคลังจดหมายเหตุดิจิทัลแบบมีชีวิต ประกอบด้วย 1) กรณีต้องการดาวโหลดไฟล์ข้อมูลการเคลื่อนไหวแบบชุดโครง กระดูก (SKeleton) ไปใช้งานซึ่งรองรับไฟล์ข้อมูลโครงกระดูกแอนิเมชัน เช่น *.FBX *.C3D หรือ *.BVH เป็นต้น หรือ ไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเก็บ Primary source โดยขึ้นอยู่กับเทคนิคการจับการเคลื่อนไหวและการส่งออกไฟล์ข้อมูล 2) กรณีต้องการดาวโหลดไฟล์ข้อมูลการเคลื่อนไหวตัวละครแอนิเมชัน 3 มิติที่มีการเคลื่อนไหวบนหน้าเว็บไซต์ไปใช้งานอีก ซึ่งจะ เป็นไฟล์ .gltf หรือ .glb ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ 3 มิติ ที่เก็บข้อมูลในรูปแบบ JSON